fbpx

การสอบ MCAT เพื่อยื่นสมัครหลักสูตรหมออินเตอร์

สำหรับคนที่สนใจอยากจะเรียนต่อปริญญาโทในอเมริกา น่าจะเคยได้ยินถึงการสอบ GMAT หรือ GRE และสำหรับคนที่อยากต่อด้านกฏหมาย ก็คงคุ้นเคยกับการสอบ LSAT ส่วนวันนี้เราขอมาแนะนำให้รู้จักกับข้อสอบสำหรับวัดระดับความรู้เพื่อเรียนต่อสายแพทย์ ที่มีชื่อว่า การสอบ MCAT ให้ได้รู้จักกัน

MCAT คืออะไร

The Medical College Admission Test หรือ ที่รู้จักโดยทั่วไปว่า MCAT นั้น เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการยื่นสมัครเข้าโปรแกรมแพทย์ รวมถึงโปรแกรมหมอจุฬาฯอินเตอร์ หรือ CU-MEDi 

โดยนักเรียนทุกคนจะต้องยื่นคะแนน MCAT เพื่อแสดงให้ทางมหาวิทยาลัยเห็นถึงระดับความรู้ที่สำคัญทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยนักเรียนต้องใช้เวลา 7.5 ชั่วโมงในการสอบ และต้องตอบคำถามทั้งหมดประมาณ 230 คำถาม ในการสอบ MCAT

โดยข้อสอบ MCAT สามารถแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน ได้แก่

  • Biological and Biochemical Foundations of Living Systems
  • Chemical and Physical Foundations of Biological Systems
  • Psychological, Social, and Biological Foundations of Behavior
  • Critical Analysis and Reasoning Skills

วิธีการนับคะแนน

MCAT มีคะแนนเต็มอยู่ที่ 528 คะแนน แต่ส่วนใหญ่แล้วมหาวิทยาลัยจะพิจารณาโดยดูจากช่วง percentile ของผู้สมัคร สิ่งที่น่าสนใจคือ หากตอบคำถามผิดจะไม่มี penalty รวมถึงการเลือกที่จะไม่ตอบ ก็จะไม่โดน penalty เหมือนกัน เพราะฉะนั้น คุณควรตอบคำถามให้มากที่สุด และถ้าไม่รู้คำตอบก็ควรจะเดา (make your best guess) เพราะยังมีโอกาสที่จะตอบถูก และถึงผิดก็ไม่โดน penalty ด้วย

โดยระบบจะนำจำนวนคำตอบที่ถูกต้องของแต่ละ section มาแปลงตาม scale คะแนน ที่มีตั้งแต่ 118 ถึง 132  ซึ่งเมื่อนำมารวมกันทุก section แล้ว จะได้เป็นคะแนนเต็มสูงสุด คือ  528 คะแนน นั่นเอง

สำหรับการสมัครโปรแกรมหมอจุฬาฯอินเตอร์ 4 ปี หรือ CU-MEDi นั้น คะแนน MCAT ถือเป็นตัวตัดสินว่าผู้สมัครจะได้เข้าไปสู่รอบ MMI ได้หรือไม่ โดยคณะกรรมการจะเรียงคะแนน MCAT ของผู้สมัครทั้งหมด จากมากไปน้อย และผู้ที่อยู่ในคะแนนท้อป 60 คนเท่านั้น ถึงจะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการทำคะแนน MCAT ให้สูงที่สุด จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการสมัครเข้า CU-MEDi

การเตรียมตัวสอบ MCAT

โดยทั่วไปแล้ว สถาบัน EduSmith จะแนะนำให้ผู้สมัครใช้เวลาในการเตรียมสอบอย่างน้อย 3 เดือน ในการอ่านหนังสือ และทำข้อสอบ โดยเราแนะนำให้ทุกคนเริ่มต้นการเตรียมตัวด้วยการวัดระดับความรู้ผ่าน diagnostic test เพื่อให้รู้ว่าหัวข้อไหนที่เราได้คะแนนดี และได้คะแนนน้อย จะได้วางแผนการอ่านหนังสือสอบได้เหมาะสม

และสำหรับนักเรียนที่คิดจะไปสอบเลย เราขอให้พิจารณาดีๆ และหันมาลองวางแผน study plan สักนิดก่อนจะไปสอบ เพราะการมี study plan ที่ดีจะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวม และรายละเอียดหัวข้อทั้งหมดที่จะต้องสอบ รวมถึงเป็นการสร้างระบบตรวจสอบ ให้คุณได้เช็คตัวเองเรื่อยๆว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในแต่ละหัวข้อ

Study guide ที่ดีควรมีรายละเอียดหัวข้อทั้งหมดที่ออกสอบ พร้อม deadline วันที่ที่ต้องอ่านให้จบ สำหรับหัวข้อการสอบทั้งหมดนั้นสามารถดูได้จาก MCAT Official Website

นอกจากนี้ ยังมีวิดีโอแชร์เคล็ดลับการเตรียมสอบดีๆจากคนที่เคยสอบจริง ใน Youtube ให้ดูอีกมากมาย

สิ่งสำคัญอย่างสุดท้ายก็คือ  ที่นั่งในการสมัครสอบ MCAT ในประเทศไทยนั้นมีจำนวนจำกัด เราจึงแนะนำให้รีบสมัครทันทีที่มีที่ว่าง

อยากให้ EduSmith ช่วยวางแผนการสอบ MCAT รวมถึงช่วยแพลน study plan ก่อนสอบ สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ Line: @EduSmithGradMBA หรือที่ เพจ ของเราได้เลย

Related Article