GMAT (Graduate Management Admission Test) และ GRE (Graduate Record Exam) เป็นข้อสอบวัดระดับที่มหาวิทยาลัยใน US และ UK ใช้ในการคัดเลือกเข้าโปรแกรมปริญญาโทและ MBA สำหรับใครที่ต้องการเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำในระดับปริญญาโท การเลือกข้อสอบให้ตรงความต้องการนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก
ภาพรวม
GRE เป็นข้อสอบจาก ETS (ผู้จัดสอบเดียวกับ TOEFL) ตัวข้อสอบของ GRE นั้นเป็นที่ยอมรับสำหรับการสมัครเข้าปริญญาโทหรือ Master’s ในสถาบันชั้นนำทั่วไป และในมหาวิทยาลัยบางแห่ง GRE เป็นคะแนนข้อสอบเดียวที่มหาวิทยาลัยจะรับพิจารณา เนื้อหาข้อสอบ GRE จะเน้นทดสอบที่ทักษะในประเภท ‘Verbal’ ซึ่งประกอบไปด้วย ความรู้ด้านคำศัพท์ ทักษะการอ่านและการเขียน
GMAT นั้นจะเป็นที่รู้จักกันในข้อสอบสำหรับคนที่ต้องการเข้าสาขา MBA โดยเฉพาะ มหาวิทยาลัยด้านธุรกิจเกือบทุกที่นั้นจะใช้คะแนน GMAT เป็นหนึ่งในเกณฑ์คัดเลือกรับผู้เข้าเรียน โดยในปัจจุบัน Business Schools ระดับ Top 20 และอีกมากกว่า 1,200 แห่งในอเมริกา เลือกรับพิจารณาทั้งคะแนน GMAT และ GRE
สำหรับข้อสอบ GMAT นั้นจะเน้นวัดความเข้าใจในทักษะคณิตศาสตร์ ซึ่งอาจจะเหมาะกับคนที่ถนัดด้านตัวเลขหรือเรียนมาทางสายวิศวะ แต่ใครที่ถนัดเลขก็อย่างเพิ่งดีใจจนเกินไป เพราะ GMAT เอง ก็มี Verbal Section ที่จะวัดความรู้ของเราทั้งด้านไวยากรณ์ และการอ่านจับใจความ และยังมี Integrated Reasoning ที่จะทดสอบทักษะทางด้านบริหารและการวิเคราะห์อีกด้วย
ข้อสอบไหนเหมาะกับใคร
หากอยากรู้ว่าเราเหมาะกับข้อสอบอันไหนมากกว่า วิธีที่ดีที่สุดคือควรลองสอบทั้งคู่ ผู้สมัครสามารถลองสอบได้ที่เว็บไซต์หลักของ GMAT และ GRE หรือขอรับแบบทดสอบได้ฟรีจากสถาบัน EduSmith โดยเรามีข้อสอบจริงทั้งสำหรับ GMAT และ GRE เมื่อสอบเสร็จแล้ว จะได้รับใบวิเคราะห์ผลคะแนน รวมทั้ง personalized recommendation บอกหัวข้อที่ผู้สอบจะต้องพัฒนา เพื่อให้ได้คะแนนดีขึ้น
หัวข้อและรายละเอียดของการสอบ
GMAT
3 ชั่วโมง 30 นาที
- Analytical Writing Section ทดสอบการเขียนเชิงวิเคราะห์ (1 Essay): 30 นาที
- Integrated Reasoning Section ทดสอบการอ่าน: 30 นาที
- Quantitative Section ทดสอบคณิตศาสตร์: 62 นาที
- Verbal Section ทดสอบคำศัพท์: 65 นาที
GRE
3 ชั่วโมง 45 นาที
- Analytical Writing ทดสอบการเขียนเชิงวิเคราะห์ 2 พาร์ท: 30 นาทีต่อพาร์ท (รวมเป็น 60 นาที)
- Verbal Reasoning ทดสอบภาษาอังกฤษ 2 พาร์ท: 30 นาทีต่อพาร์ท (รวมเป็น 60 นาที)
- Quantitative ทดสอบคณิตศาสตร์ 2 พาร์ท: 35 นาทีต่อพาร์ท (รวมเป็น 70 นาที หรือ 1 ชั่วโมง 10 นาที)
รูปแบบข้อสอบ
GMAT
ข้อสอบแบบ Computer-Adaptive
หนึ่งในความพิเศษของข้อสอบ GMAT ก็คือข้อสอบนั้นเป็นแบบ question-adaptive ซึ่งหมายความว่าหากทำชุดข้อสอบแรกถูกต้อง ชุดข้อสอบถัดไปก็จะเพิ่มระดับความยากขึ้นไป (นั่นหมายความว่า หากตอบผิด ระบบก็จะปรับให้ชุดข้อถัดไปง่ายลงไปด้วย) ข้อสอบรูปแบบนี้อาจจะฟังดูน่ากลัว เพราะผู้สอบอาจจะต้องเจอกับคำถามที่อยากมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อตอบไปแล้ว ก็ไม่สามารถกลับไปทวนและแก้คำตอบข้อก่อนๆได้อีกด้วย
GRE
ข้อสอบแบบทำด้วยคอมพิวเตอร์
สำหรับใครที่จะเลือกสอบ GRE เพราะอยากหนีข้อสอบแบบ adaptive คงต้องพิจารณาใหม่เพราะ GRE นั้นก็เป็นแบบ adaptive เหมือนกัน แต่ที่ต่างกัน คือ GRE จะปรับระดับให้ยากขึ้น หรือ ง่ายลงตาม section ไม่ใช่ปรับตามชุดคำถามเหมือนของ GMAT
โดยในแต่ละ section จะไม่ได้ปรับให้ยาก/ง่ายขึ้นในข้อถัดไป เปรียบง่ายๆ เหมือนแต่ละ section นั้นเป็นด่านในเกม ผู้สอบยังสามารถทวนคำตอบใน section นั้นๆได้ ก่อนที่จะเริ่ม section ต่อไป เหมือนเวลาเล่นเกมที่คุณต้องเก็บเลเวลไปเรื่อยๆเพื่อเพิ่มความยาก
การคิดคะแนน
GMAT
คะแนนรวม 200-800
Analytical Writing (AWA): 0.0-6.0
Integrated Reasoning (IR): 1-8
Quantitative section: 6-51
Verbal section: 6-51
GRE
คะแนนรวม 260-340
ประกอบด้วยคะแนน:
Quantitative 130-170 และ
Verbal 130-170
ส่วน Analytical Writing นั้นจะเป็นคะแนน 0-6
ราคาสอบ และอายุของผลสอบ
GMAT
ราคา: $250 เหรียญ ดอลล่าร์สหรัฐ
อายุผลสอบ: 5 ปี
GRE
ราคา: $205 เหรียญ ดอลล่าร์สหรัฐ
อายุผลสอบ: 5 ปี
สามารถสอบได้กี่ครั้ง?
สำหรับข้อสอบ GMAT นั้น จะสอบได้ทุกๆ 16 วัน แต่ห้ามเกิน 5 ครั้งใน 12 เดือน ข้อควรระวังคือ GMAT นั้นสามารถสอบได้แค่ 8 ครั้งตลอดชีวิต
สำหรับข้อสอบ GRE จะสอบได้ทุกๆ 21 วัน แต่ห้ามเกิน 5 ครั้งใน 12 เดือน (365 วัน) และยืดหยุ่นกว่าเพราะไม่จำกัดจำนวนครั้ง ว่าสามารถสอบได้กี่รอบในชีวิต
อ่านบทความนี้ก่อนถ้าตัดสินใจสอบ GMAT มาดูกันว่าเรามีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับข้อสอบนี้รึเปล่า
ยังไม่แน่ใจว่าควรสอบตัวไหนดี? แอดไลน์เรามาจองเวลาสอบ GMAT และ GRE เลย!