บทความนี้ EduSmith จะมาตอบคำถามที่ยังคาใจผู้ปกครองหลายคน ที่กำลังตัดสินใจในการส่งบุตรหลานไปโรงเรียนประจำว่าควรที่จะเลือกไปประเทศไหนดีระหว่าง อเมริกาและอังกฤษ เพราะไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนต่างก็มีเสน่ห์และจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง วันนี้เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ “โรงเรียนประจำ US และ UK” มาไขข้อข้องใจ เพื่อช่วยให้คุณเลือก เส้นทางสู่ความสำเร็จ ที่ใช่ที่สุดสำหรับบุตรหลานของคุณ
หลักสูตรของ US vs UK
Q: หลักสูตรของโรงเรียนประจำ US และ UK แตกต่างกันอย่างไร?
A: ความแตกต่างหลักคือ “ความกว้าง” และ “ความลึก” ในการเรียน
- US Boarding Schools: ใช้ระบบ Liberal Arts เน้นหลักสูตรที่กว้าง นักเรียนจะได้เรียนหลากหลายวิชาจนถึงเกรด 12 โดยมีวิชาเลือกเยอะ รวมถึง AP (Advanced Placement) และ College-Level classes เพื่อให้ค้นพบความสนใจที่แท้จริง เหมาะกับนักเรียนที่ยังไม่แน่ใจว่าอยากเรียนต่อทางด้านใด
- UK Boarding Schools: ใช้ระบบ IGCSE และ A-Level (หรือ IB) เน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะทางตั้งแต่เนิ่น ๆ นักเรียนจะต้องเลือกวิชาที่จะเรียนเพียง 3-4 วิชาในระดับ A-Level เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสาขาเฉพาะในมหาวิทยาลัย เหมาะกับนักเรียนที่มุ่งมั่นและรู้เป้าหมายชัดเจนตั้งแต่เนิ่น ๆว่าอยากจะเรียนอะไร
Q: การเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยของทั้งสองระบบเป็นอย่างไร?
A: ขึ้นอยู่กับเป้าหมายมหาวิทยาลัยของแต่ละคนเป็นหลัก
- US Schools: เน้นการเตรียมตัวแบบ Holistic Review ซึ่งรวมถึง GPA, SAT/ACT, Essays และกิจกรรมนอกหลักสูตรที่โดดเด่น เตรียมพร้อมสำหรับการเข้า Ivy League และมหาวิทยาลัยชั้นนำในอเมริกา
- UK Schools: เน้นผลการเรียนใน A-Level เป็นหลักในการสมัครผ่านระบบ UCAS มีการเตรียมพร้อมเชิงวิชาการอย่างเข้มข้น เพื่อเป้าหมาย Oxbridge และมหาวิทยาลัยใน Russell Group
ด้านการเงินและการรับสมัคร
Q: ค่าใช้จ่ายต่อปีของโรงเรียนประจำ US และ UK อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
A: ค่าใช้จ่ายของโรงเรียนชั้นนำทั้งสองประเทศค่อนข้างใกล้เคียงกันเมื่อเทียบเป็นสกุลเงินท้องถิ่น:
- US: ประมาณ USD $65,000 – $85,000 ต่อปี (รวมค่าเรียนและค่าที่พัก)
- UK: ประมาณ GBP £54,000 – £66,000 ต่อปี (รวมค่าเรียนและค่าที่พัก)
Q: การรับสมัครเข้าโรงเรียนประจำ US และ UK มีข้อแตกต่างที่สำคัญอย่างไร?
A: ความแตกต่างหลักอยู่ที่การทดสอบและช่วงเวลาที่ควรเริ่มเตรียมตัว
- US: สำหรับโรงเรียนประจำใน US จะใช้คะแนน SSAT/ISEE โดยที่ช่วงเวลาการสมัครยืดหยุ่นกว่า แต่ควรเริ่มอย่างน้อย 1 ปีก่อนปีการศึกษาที่เข้า จะเน้นการสัมภาษณ์ เรียงความ และพิจารณาความสามารถที่หลากหลาย
- UK: สำหรับโรงเรียนประจำใน UK จะใช้คะแนน ISEB Pretest, CAT4, UKISET และข้อสอบเฉพาะของโรงเรียน โดยที่ช่วงเวลาการสมัครจะเข้มงวดตามระบบปีการศึกษา มักต้องเริ่มสมัคร 1.5 ถึง 2 ปีก่อน โดยเฉพาะการเข้าเรียนช่วงอายุ 13+ จะเน้นผลสอบวิชาการ สัมภาษณ์ และรายงานผลการเรียน
ด้าน Culture และการใช้ชีวิต
Q: บรรยากาศและ Culture ของนักเรียน US และ UK เป็นอย่างไร?
A:
- US Culture: เน้นการสร้างความเป็นผู้นำ, ความคิดริเริ่ม และ การแสดงความคิดเห็นในห้อง อีกทั้งยังมีโปรแกรมกีฬาและศิลปะที่แข็งแกร่งมาก
- UK Culture: จะมีความเป็น Traditional มากกว่า โดยเฉพาะโรงเรียนเก่าแก่ มีระบบ Housemaster ที่ดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด และอาจมีกฎระเบียบที่เข้มงวดกว่าฝั่ง US
Q: การดูแลนักเรียนของทั้ง 2 ประเทศแตกต่างกันไหม?
A: ทั้ง 2 ระบบมีการดูแลนักเรียนที่ดีเยี่ยม แต่ก็มีรูปแบบการดูแลที่แตกต่างกัน:
- US: มีระบบ Dorm Parents และ Academic Advisors ที่คอยให้การสนับสนุนด้านการเรียนและสุขภาพจิตอย่างเป็นระบบ
- UK: ระบบ Housemaster/Housemistress ทำหน้าที่เป็นเสมือนผู้ปกครองที่พักอาศัย ที่ดูแลชีวิตประจำวันทั้งหมดในหอพัก ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของชีวิตนักเรียน
สรุปโดยรวมแล้ว โรงเรียนประจำใน US มีความยืดหยุ่นในการสำรวจวิชาการพัฒนาความเป็นผู้นำแบบองค์รวม เหมาะสำหรับบุตรหลานของท่านที่อยากค้นหาตัวเอง มีความสนใจที่หลากหลาย และมุ่งเป้าหมายมหาวิทยาลัย US เป็นหลัก ส่วนโรงเรียนประจำฝั่ง UK จะมีการเจาะลึกวิชาการเฉพาะทางตั้งแต่ ม.ปลาย โครงสร้างและระเบียบวินัยที่เข้มงวด เหมาะสำหรับคนที่มีเป้าหมายสายวิชาชีพชัดเจน (เช่น แพทย์ วิศวะ กฎหมาย) และชอบความท้าทายทางวิชาการ
หรือถ้าผู้ปกครองคนไหน อยากฟังข้อมูลที่เจาะลึกในทุกด้านเกี่ยวกับโรงเรียนประจำทั้งในฝั่ง US และ UK จากผู้เชี่ยวชาญในด้าน Boarding School ของ EduSmith ที่มาให้ความรู้อัดแน่น สามารถรับชม Webinar ย้อนหลัง ในหัวข้อ “US vs UK Boarding Schools : THE DIFFERENT PATHS TO SUCCESS” ได้แล้วในช่องทาง YouTube ของเรา
และสำหรับผู้ปกครองท่านใดที่ต้องการเริ่มที่จะวางแผนในการส่งลูกของท่านไปเรียนต่อในโรงเรียนประจำ ไม่ว่าจะเป็นทั้งใน US หรือ UK สามารถเข้ามารับคำปรึกษา Free Counselling กับทาง EduSmith ได้ฟรี 1 ชั่วโมงเต็ม เพื่อเลือกระบบที่ใช่ที่สุดสำหรับลูกของท่านไปกับ Counselor ผู้เชี่ยวชาญในด้าน Boarding School ที่มีประสบการณ์ในการช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนไทยไป Boarding School ในประเทศชั้นนำของโลกมาแล้วมากกว่า 10 ปี สามารถแอดไลน์ได้แล้วที่ @EduSmith และผู้ปกครองท่านไหนสนใจอยากที่จะร่วมงาน Event ของทาง Bessa ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ สามารถลงทะเบียนที่นี่
