เรายังคงติดตามข่าวใหญ่สำหรับการศึกษาระดับโลกอย่างการเปลี่ยนแปลงรูปแบบข้อสอบ SAT ไปเป็น Digital SAT
โดยในบทความนี้ ครูผู้เชี่ยวชาญด้าน SAT ของ EduSmith ได้ทำการวิเคราะห์และศึกษาข้อสอบ Digital SAT เพื่อจะนำเอาข้อมูลรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เพิ่ม และสิ่งที่ยกเลิกใน Digital SAT มาให้น้องๆและผู้ปกครองได้อ่านกันก่อนใคร
การเปลี่ยนแปลงในเนื้อหาข้อสอบ Digital SAT มี 5 สิ่งที่ควรรู้ด้วยกัน ได้แก่
1. จะมีการนำข้อสอบ “sentence completions” กลับมาใช้อีกครั้ง
หากผู้ปกครองคนไหนเคยสอบ SAT ในช่วงปี 1980-1990 ท่านอาจจะพอจำได้ว่าเมื่อก่อนนั้นข้อสอบ reading section จะเริ่มด้วยคำถามประเภทที่ให้เลือกเติมคำศัพท์ในช่องว่าง หรือ sentence completions เหมือน ตัวอย่างคำถามด้านล่างนี้
ซึ่งในปี 2016 ทาง College Board ได้มีการปรับรูปแบบข้อสอบ (ซึ่งกลายมาเป็นข้อสอบที่เราจะใช้กันจนถึงปี 2022 นี้) โดยได้ตัดคำถามประเภท sentence completions ออกทั้งหมด และเปลี่ยนมาใช้คำถามทดสอบความรู้ด้านคำศัพท์ จากการอ่าน passage ตามตัวอย่างด้านล่าง
ข้อสอบ Digital แบบใหม่ ยังคงวัดความรู้ด้านคำศัพท์ผ่านความเข้าใจในประโยคอยู่ แต่จะมีเพิ่มคำถามแบบ sentence completion เข้ามาอีกครั้ง โดยปรับให้คำถามยาวและละเอียดมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้อาจจะทำให้นักเรียนที่ไม่ถนัดด้านคำศัพท์ ต้องท่องศัพท์เพิ่ม และฝึกทำความเข้าใจอยู่พอสมควร
2. ยกเลิกคำถาม History Passages
คำถาม history passages ถือว่าเป็นโจทย์ยากอันดับต้นๆในข้อสอบ SAT ยุคปัจจุบัน โดยเนื้อหาของ passages ส่วนมากจะมาจากเรียงความเชิงโน้มน้าว รวมถึงสุนทรพจน์ และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและสภาพสังคมของตะวันตกในช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18
คำถามประเภทนี้เป็นงานหินสำหรับเด็กที่สอบ SAT ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กไทย ซึ่งไม่ได้มีความคุ้นเคยกับประวัติศาสตร์และสังคมศาสตร์ตะวันตกมากเท่าไหร่ ยิ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่างเด็กนักเรียนในสหรัฐอเมริกา
นี่จึงถือเป็นข่าวดีสำหรับนักเรียนไทย ที่ Digital SAT จะไม่ใช้ passages เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ตะวันตกในข้อสอบรูปแบบใหม่
3. The addition of poetry and drama. เพิ่มคำถามบทกวีและบทละครเวที
Passage ส่วนใหญ่ที่ใช้ในข้อสอบปัจจุบัน จะตัดมาจากวรรณกรรมยุคศตวรรษที่ 19 และจะเลือกมาแต่งานเขียนแบบ Prose หรือร้อยกรอง
แต่งานเขียนที่จะถูกนำมาใช้ในข้อสอบ Digital SAT จะมีความหลากหลายมากขึ้น โดยจะมี passage จาก poem บทกวี และ plays หรือบทละคร จากยุค English Renaissance เพิ่มเข้ามา
ซึ่งก็หมายความหมายนักเรียนก็จะได้เจอกับ passage ที่เข้าใจยากขึ้น เนื่องจากงานเขียนในยุค English Renaissance นั้น ใช้ภาษาอังกฤษโบราณ ที่ใช้โครงสร้างประโยคและการใช้คำศัพท์ค่อนข้างแตกต่างจากภาษาอังกฤษที่เราใช้ในปัจจุบัน นี่อาจจะเป็นข่าวร้ายสำหรับนักเรียนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเรียนโรงเรียนนานาชาติหรือโรงเรียนไทยก็ตาม
4. New “critical reasoning” questions. วัดตรรกะด้วยคำถาม “critical reasoning”
จะมีการนำคำถามรูปแบบ “critical reasoning” หรือ “logical reasoning” มาใช้ใน Digital SAT ซึ่งคำถาม รูปแบบนี้ จะใช้ทดสอบหลักการและเหตุผลของผู้สอบ ผ่าน argumentative passages อย่างที่รู้จักกันดี คือ ข้อสอบ GMAT และ LSAT ซึ่งเป็นข้อสอบสำหรับชั้นปริญญาโทที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย
ตัวอย่างคำถามจาก LSAT
ข้อสอบปัจจุบันของ SAT มีการออกคำถามเหล่านี้อยู่บ้าง แต่ใน Digital นั้น critical reasoning จะเป็นหนึ่งประเภทคำถามที่ต้องเจอในพาร์ท reading and writing อย่างแน่นอน
ซึ่งการเพิ่มคำถามเชิงตรรกศาสตร์ให้มากขึ้นก็อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับนักเรียนที่ถนัดด้านวิทยาศาสตร์ก็ได้ แต่ก็อาจจะยากสำหรับนักเรียนโดยทั่วไป ซึ่งเราก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ให้ผลดีหรือร้ายสำหรับนักเรียนไทย
5. Familiar – and perhaps simpler – writing questions. “Writing” คำถามแกรมม่าที่คุ้นเคย มีแนวโน้มที่จะง่ายขึ้น
ดูเหมือนว่าข้อสอบส่วนแกรมม่าหรือ “Writing” ใน Digital SAT นั้นมีแน้วโน้มที่จะง่ายขึ้น โดยข้อสอบจะเน้นวัด “Standard English Conventions” และ “Transitions” เช่นคำถามตัวอย่างสองข้อด้านล่าง:
ซึ่งนี่คงจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้สอบทุกคน เพียงทำความเข้าใจหลักภาษาและจดจำ pattern ของแต่ละหัวข้อให้ได้ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนข้อสอบให้ง่ายขึ้น ก็แปลว่าผู้สอบส่วนใหญ่ก็จะทำคะแนนพาร์ทนี้ได้ดีขึ้นด้วย
Writing จะไม่ได้เป็นพาร์ทที่ช่วยให้เด็กคนใดคนหนึ่งดึงคะแนนตัวเองให้สูงกว่าคู่แข่งอีกต่อไป