เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงข้อสอบ Standardised Test อื่นๆ ทาง Graduate Management Admission Council (GMAC) ได้ออกประกาศการเปลี่ยนแปลงข้อสอบ GMAT เป็นรูปแบบใหม่ ซึ่งใช้เวลาสอบสั้นลง เพื่อช่วยไม่ให้ผู้สอบเหนื่อยล้าจนเกินไป โดยข้อสอบตัวใหม่นี้จะมีผลเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2023 เป็นต้นไป
ตอบทุกประเด็นคำถามเกี่ยวกับ GMAT Focus Edition โดยที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก EduSmith ฟังแบบเต็มๆ คลิกเลย!
สำหรับคนที่ยังไม่ทราบว่าข้อสอบ GMAT คืออะไร วันนี้ทาง EduSmith จะมา Recap ข้อมูลข้อสอบ GMAT ให้แบบสั้นๆ
GMAT หรือ Graduate Management Admission Test เป็นข้อสอบสำหรับวัดความสามารถของผู้ที่ต้องการสมัครเรียนต่อปริญญาโทด้าน Business Management อันเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปของมหาวิทยาลัยด้านธุรกิจทั่วโลก และยังเป็นข้อสอบที่ Required ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา ข้อสอบ GMAT จะวัดผลในเรื่องของ Analytical Skill, Writing Skill, Quantitative Skill, Verbal Skill และ Reading Skill ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการเรียนและการทำงานในสายบริหาร
ข้อสอบ GMAT รูปแบบใหม่นี้มีชื่อเรียกว่า GMAT Focus Edition ซึ่งออกแบบมาให้สั้นและกระชับกว่าเดิม โดยข้อสอบ GMAT Focus Edition มีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ ดังต่อไปนี้
-
- Exam structure หรือโครงสร้างตัวข้อสอบมีความกระชับมากขึ้น เวลาในการทำข้อสอบลดน้อยลง เหลือเพียง 2 ชั่วโมง 15 นาที (รวมเวลาพัก 10 นาทีแล้ว) จากเดิมที่ใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง 30 นาที และข้อสอบจะไม่มีพาร์ท Essay อีกต่อไป โดยข้อสอบรูปแบบใหม่นี้จะแบ่งเป็น 3 พาร์ทหลักๆ พาร์ทละ 45 นาที คือ
-
- Quantitative Reasoning: 21 คำถาม
-
- Verbal Reasoning: 23 คำถาม
-
- Data Insights: 20 คำถาม
-
- Exam structure หรือโครงสร้างตัวข้อสอบมีความกระชับมากขึ้น เวลาในการทำข้อสอบลดน้อยลง เหลือเพียง 2 ชั่วโมง 15 นาที (รวมเวลาพัก 10 นาทีแล้ว) จากเดิมที่ใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง 30 นาที และข้อสอบจะไม่มีพาร์ท Essay อีกต่อไป โดยข้อสอบรูปแบบใหม่นี้จะแบ่งเป็น 3 พาร์ทหลักๆ พาร์ทละ 45 นาที คือ
โดยผู้เข้าสอบสามารถเลือกทำข้อสอบในพาร์ทไหนก่อนก็ได้
-
- มีเวลาพักระหว่างการสอบ 10 นาที โดยเป็นสิทธิ์ที่ผู้เข้าสอบสามารถเลือกได้ว่าจะพักช่วงไหน ไม่ว่าจะเป็นช่วงหลังพาร์ทแรก หลังพาร์ทที่ 2 หรือจะไม่ใช้เวลาพักเลยก็ได้เช่นกัน
-
- การเพิ่มพาร์ท Review and Edit
-
- ข้อสอบ GMAT Focus Edition รูปแบบใหม่นี้ ผู้เข้าสอบสามารถเลือก Bookmark คำถามที่ไม่แน่ใจ เพื่อกลับมารีเช็คและแก้ไขคำตอบของตัวเองใหม่ได้หากมีเวลาเหลือเพียงพอ นับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้เข้าสอบ เพราะหากผู้เข้าสอบมีเวลาเหลือ การได้ทบทวนคำตอบสามารถช่วยเพิ่มคะแนนสอบให้ดียิ่งขึ้นได้
-
- การเพิ่มพาร์ท Review and Edit
-
- การเปลี่ยนแปลงข้อสอบในพาร์ท Quantitative Reasoning ดังนี้
-
- คำถามในส่วน Quant เหลือเพียง 21 ข้อ จาก 31 ข้อ
-
- มีการตัดข้อสอบในส่วนของ Data Sufficiency
-
- ข้อสอบในหัวข้อ Arithmetic and Elementary Algebra จะเน้นทดสอบการวิเคราะห์และ Logic มากกว่าการคำนวณเลข
-
- ไม่ให้มีการใช้เครื่องคิดเลขในการสอบ
-
- การเปลี่ยนแปลงข้อสอบในพาร์ท Quantitative Reasoning ดังนี้
-
- การเปลี่ยนแปลงข้อสอบในพาร์ท Verbal Reasoning มีดังนี้
-
- ข้อสอบในพาร์ท Reading Comprehension และ Critical Reasoning จะลดเหลือเพียง 23 ข้อ จาก 36 ข้อ
-
- มีการตัดข้อสอบในส่วน Sentence Correction ออกไป
-
- การเปลี่ยนแปลงข้อสอบในพาร์ท Verbal Reasoning มีดังนี้
-
- ข้อสอบในพาร์ท Data Insights จะมีการนำรูปแบบข้อสอบประเภท Integrated Reasoning and Data Sufficiency มาใช้ เพื่อวัดความสามารถในการตีความและการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ ดังนี้
-
- มีคำถามทั้งหมด 20 ข้อ
-
- คำถามจะทดสอบทั้ง Math, Verbal และ Data Analysis Skills
-
- มีเครื่องคิดเลขขึ้นบนหน้าจอให้ผู้เข้าสอบได้ใช้
-
- สัดส่วนของคำถาม มีดังต่อไปนี้
-
- Data Sufficiency Questions: 20-40%
-
- Multi-Source Reasoning (MSR): 10-20%
-
- Table Analysis: 10-20%
-
- Graphical Interpretation: 20-30%
-
- Two-Part Analysis: 10-20%
-
- สัดส่วนของคำถาม มีดังต่อไปนี้
-
- ข้อสอบในพาร์ท Data Insights จะมีการนำรูปแบบข้อสอบประเภท Integrated Reasoning and Data Sufficiency มาใช้ เพื่อวัดความสามารถในการตีความและการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ ดังนี้
-
- รายงานผลคะแนนรูปแบบใหม่ที่ละเอียดกว่าเดิม
-
- มีการปรับปรุงการรายงานผลคะแนนของการสอบ GMAT Focus Edition ให้มีความละเอียดมากขึ้น เดิมผู้เข้าสอบต้องซื้อ ESR โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 30 ดอลลาร์ เพื่อรับข้อมูลผลสอบเชิงลึก แต่สำหรับ GMAT รูปแบบใหม่นี้ ผู้สอบจะได้รับการรายงานผลคะแนนที่เหมือนกับ ESR ซึ่งจะทำให้ทุกคนสามารถนำข้อมูลไปประกอบการพิจารณาว่าควรสมัครเรียนที่ไหน หรือควรปรับปรุงตรงไหนบ้างเพื่อให้สามารถทำคะแนนได้ดียิ่งขึ้นในการสอบครั้งถัดไป
-
- รายงานผลคะแนนรูปแบบใหม่ที่ละเอียดกว่าเดิม
ในส่วนของคะแนนสอบ คะแนน GMAT Focus Edition รูปแบบใหม่นี้ มีช่วงคะแนนอยู่ที่ 205-805 คะแนน ในขณะที่คะแนนสอบ GMAT แบบเก่ามีช่วงคะแนนอยู่ที่ 200-800 คะแนน
ถึงแม้ว่าระยะเวลาการสอบจะลดลงและสามารถเลือกพักสมองในระหว่างสอบได้ แต่เนื้อหาของข้อสอบ GMAT จะมีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะแม้จะลดจำนวนข้อสอบลง แต่ต้องวัดผลสอบให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม การเตรียมความพร้อมและการวางแผนการสอบที่ดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังจึงมีความจำเป็นอย่างมาก!
คะแนน GMAT เป็นคะแนนที่สำคัญมากในการยื่นเข้าสมัครเรียน MBA ในมหาวิทยาลัยชั้นนำ รวมถึง Business School ระดับโลก ใครที่ต้องการไปเรียนต่อปริญญาโทในต่างประเทศ โดยเฉพาะในอเมริกา การเตรียมตัวสอบ GMAT นับเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง และสำหรับใครที่อยากได้ตัวช่วยในการเตรียมตัว สถาบัน EduSmith มีครูชาวต่างชาติที่มีประสบการณ์ในการสอน GMAT มากกว่า 10 ปี และมีเทคนิคการทำข้อสอบเพื่ออัพคะแนนให้ได้ตามเป้า สามารถทักมาปรึกษา สอบถาม และขอข้อมูลเพิ่มเติมกับทาง EduSmith ได้ฟรี ผ่านทาง Line Official Account: @edusmithgradmba หรือ คลิก
Sources